Guy Mettan ส.ส.ชาวสวิสและอดีตหัวหน้าบรรณาธิการของ Tribune de Genève บรรยายลักษณะนักแสดงตลกที่เล่นเป็นประธานาธิบดีของยูเครน โดยที่เขาจะทำให้เห็นว่าผู้ให้ความบันเทิงรายนี้กลายเป็นพันธมิตรของ Banderists และจัดตั้งรัฐบาลเผด็จการได้อย่างไร
"Héros de la liberté", "ฮีโร่แห่งยุคของเรา" ฮีโร่ชาวยูเครนที่ได้ท้าทายปูติน "เซเลนสกี้, คือสายเลือดของยูเครน" สื่อตะวันตกและผู้นำรัฐบาล ร้องเพลงสรรเสริญประธานาธิบดียูเครน เนื่องด้วยรู้สึกทึ่งกับความสามารถจากนักแสดงตลกสู่ ขุนศึก และ ผู้กอบกู้ประชาธิปไตย
ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ประมุขแห่งยูเครนได้พาดหัวข่าว จัดแถลงข่าว เปิดเทศกาลหนังเมืองคานส์ ประชุมรัฐสภา แสดงความยินดีและตักเตือนเพื่อนร่วมงานที่เป็นประมุขของรัฐที่มีอำนาจมากกว่าเขาถึงสิบเท่า เป็นแทคติคที่ดารานักแสดงหรือผู้นำทางการเมืองไม่เคยเห็นมาก่อน
ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ Volodymyr Zelensky ได้พิสูจน์ตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัยว่าเป็นศิลปินที่มีความสามารถพิเศษทางด้านการเมืองระหว่างประเทศ บรรดาผู้ที่ติดตามอาชีพของเขาในฐานะนักแสดงไม่ได้รู้สึกแปลกใจเพราะรู้ดีถึงพรสวรรค์การด้นสด ความสามารถในการเลียนแบบ และความกล้าในการแสดง วิธีที่เขาเอาชนะคู่แข่ง เช่นอดีตประธานาธิบดี Poroshenko ในช่วงสองสามสัปดาห์ระหว่าง 31 ธันวาคม 2018 ถึง 21 เมษายน 2019 โดยการสนับสนุนจากผู้ที่อำนาจได้พิสูจน์ความสามารถของเขาแล้ว
พรสวรรค์
ตามปกติแล้ว ด้านหน้าไม่ค่อยดูเหมือนหลังเวที มุมมืดมักถูกซ่อนมากกว่าที่จะแสดงให้เห็น และนี่คือภาพที่มีน้อยคนนักจะรู้ถึงความสำเร็จของตัวเอกของเราในฐานะประมุขแห่งรัฐและผลงานในฐานะผู้พิทักษ์ประชาธิปไตยที่หลายคนต้องการเป็น
พรสวรรค์ของ Zelensky ในการทำ double-deal แสดงให้เห็นทันทีที่เขาได้รับเลือก ด้วยคะแนน 73.2% ของคะแนนเสียงทั้งหมด กับสัญญาว่าจะยุติการทุจริต เพื่อนำยูเครนไปสู่เส้นทางแห่งความก้าวหน้า และเหนือสิ่งอื่นใดคือสร้างสันติภาพกับ Donbass ที่พูดภาษารัสเซีย ทันทีที่เขาชนะการเลือกตั้ง เขาทรยศต่อคำมั่นสัญญาทั้งหมด จนทำให้คะแนนนิยมของเขาลดลงเหลือ 23% ในเดือนมกราคม 2022 จนถึงขนาดที่คู่แข่งของเขา 2 คนมีคะแนนนำแบบไม่เห็นฝุ่น
ในเดือนพฤษภาคม 2019 ประธานาธิบดีที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้ง ตอบแทนผู้สนับสนุนที่มีอำนาจของเขา ด้วยการเปิดตัวโครงการแปรรูปที่ดินขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรม 40 ล้านเฮกตาร์ โดยอ้างว่าการเลื่อนการชำระหนี้ขายที่ดินจะทำให้จีดีพีของประเทศเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์ และยังปฏิบัติการมากมายในการแปรรูปทรัพย์สินของรัฐ การยกเลิกกฎหมายแรงงาน และการรื้อถอนสหภาพแรงงาน ได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวยูเครนส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าใจความหมายของ "ความก้าวหน้า" "ความเป็นตะวันตก" และ "การทำให้เป็นมาตรฐาน" ของเศรษฐกิจยูเครน ในประเทศที่ มีรายได้ต่อหัว 3,726 ดอลลาร์เมื่อเทียบกับรัสเซียในปี 2020 ที่ 10,126 ดอลลาร์ ในขณะที่ปี 1991 รายได้เฉลี่ยของคนยูเครนสูงกว่าของรัสเซีย การเปรียบเทียบนี้ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อประจบประแจง และขอให้เป็นที่เข้าใจไว้ด้วยว่าชาวยูเครนไม่ได้ปรบมือให้กับการปฏิรูปเสรีนิยมครั้งใหม่ที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้
สำหรับการเดินทางสู่ความเจริญนั้น มาในรูปแบบกฤษฎีกาอีกฉบับหนึ่ง ที่ออกในวันที่ 19 พฤษภาคม 2021 ได้รับรองให้ใช้เฉพาะภาษายูเครน และห้ามภาษารัสเซียแม้ในที่สาธารณะ สถานที่ราชการ โรงเรียนและธุรกิจทั้งหมด เป็นที่พอใจของ ชาตินิยมอย่างเหลือล้นและสร้างความประหลาดใจให้กับคนที่พูดภาษารัสเซียทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
![]() |
ตัวประกันของ AZOV BATTALIONS
การสร้างสายสัมพันธ์ของ Zelensky กับตัวแทนสุดโต่งที่สุดของลัทธิชาตินิยมยูเครน ที่สื่อตะวันตกต่างพากันออกมาปฏิเสธว่าไม่จริ๊งงง ที่ประธานาธิบดีเชื้อสายยิวจะเห็นอกเห็นใจพวกนีโอนาซีที่เป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆของคนในชาติ พวกคุณไม่ควรให้เครดิตกับ "denazification"(ทำให้เป็นมลทิน) ของวลาดีมีร์ ปูติน..
และข้อเท็จจริงก็ปรากฏและไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
เป็นที่เเน่ชัดว่าโดยส่วนตัวแล้ว Zelensky ไม่เคยใกล้ชิดกับอุดมการณ์นีโอนาซีหรือแม้กระทั่งกับชาตินิยมยูเครนที่อยู่ขวาสุดของบรรพบุรุษชาวยิวของเขาแม้ว่าจะไม่ค่อยเอ่ยถึงชาติกำเนิดของตัวเองก่อนเดือนกุมภาพันธ์ 2022 การสร้างสายสัมพันธ์กับกลุ่มนีโอนาซีนี้ไม่นับเป็นของการหักหลังเชื้อชาติ แต่เป็นเรื่องของเหตุผลที่มีส่วนผสมที่เข้าใจกันดีของลัทธิปฏิบัตินิยมและสัญชาตญาณเพื่อความอยู่รอดทางร่างกายและการเมือง
ต้องย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม 2019 เพื่อทำความเข้าใจธรรมชาติของความสัมพันธ์ระหว่าง Zelensky กับฝ่ายขวาสุด และคุณต้องเข้าใจว่ากลุ่มคนเหล่านี้ แม้ว่าจะมีเพียง 2 % เท่านั้นที่มีสิทธลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่พวกเขาเป็นตัวแทนของผู้คนเกือบล้านที่มีแรงจูงใจและมีระบบการจัดการที่ดี ซึ่งกระจายอยู่ในกลุ่มและขบวนการมากมาย เช่นกองทหาร Azov (Kolomoysky ก่อตั้งและสนับสนุนด้านการเงินตั้งแต่ต้นปี 2014 ก็ยังเป็นเขา!) เป็นที่รู้จักดีที่สุด องค์กร Aïdar, Dnipro, Safari, Svoboda, Pravy Sektor, C14 และ National Corps ทั้งหมดล้วนแล้วเป็นเคลือข่ายของกลุ่มขวาสุดทั้งสิ้น
C14 ตั้งชื่อตามจำนวนคำในวลีอเมริกัน neo-Nazi David Lane’s phrase(“เราต้องปกป้องการดำรงอยู่ของคนของเราและอนาคตสำหรับเด็กผิวขาว”) เป็นหนึ่งในประโยคที่ไม่ค่อยคุ้นหูในต่างประเทศ แต่น่ากลัวที่สุดในยูเครน กลุ่มเหล่านี้ทั้งหมดจะต้องถูกรวมเข้าไปอยู่ในกองทัพยูเครนและผู้พิทักษ์แห่งชาติไม่มากก็น้อยตามความคิดริเริ่มของผู้นำของพวกเขา อดีตรัฐมนตรีมหาดไทย Arsen Avakov เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยให้กับยูเครนที่ไม่มีใครขัดขวางตั้งแต่ 2014 ถึง 2021 พวกเขาเป็นกลุ่มที่ Zelensky เรียกว่า "ทหารผ่านศึก" ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2019
ไม่กี่เดือนหลังการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีหนุ่มไปที่ดอนบาสเพื่อพยายามทำตามสัญญาตอนเลือกตั้งของเขาและบังคับใช้ข้อตกลงมินสค์ที่ลงนามโดยบรรพบุรุษ(อดีตประธานาธิบดี)กองกำลังฝ่ายขวาจัดซึ่งโจมตีเมืองโดเนตสค์และลูแกนสค์มาตั้งแต่ปี 2014 ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่าหนึ่งหมื่นราย ยินดีต้อนรับเขาด้วยความระมัดระวังที่สุดเพราะพวกเขาสงสัยในตัวประธานาธิบดี "ผู้รักสงบ" คนนี้ เนื่องจากพวกเขากำลังดำเนินการต่อสู้อย่างไร้ความปราณีเพื่อต่อต้านสันติภาพภายใต้สโลแกน "ไม่ยอมแพ้"
ในวิดีโอหนึ่งของ Zelensky อ้อนวอนพวกเขาด้วยสีหน้าซีดเซียว: “ฉันเป็นประธานาธิบดีของประเทศนี้ ฉันอายุ 41 ปี ฉันไม่ใช่คนแพ้ ฉันมาหาคุณแล้วพูดว่า: เอาปืนออกไป” วิดีโอดังกล่าวเผยแพร่บนโซเชียลเน็ตเวิร์กและ Zelensky ก็กลายเป็นเป้าหมายของการโฆษณาสร้างความเกลียดชังในทันที นี่อาจจะเป็นจุดสิ้นสุดของความปรารถนาเพื่อสันติภาพและดำเนินการตามข้อตกลงมินสค์
ไม่นานหลังจากเหตุการณ์นี้ มีการถอนกำลังเล็กน้อยของพวกหัวรุนแรง และจากนั้นการทิ้งระเบิดก็ดำเนินต่อไปอย่างจริงจัง


