ตามรายงานของรอยเตอร์รัฐบาลสหรัฐฯ กําลังพิจารณาที่จะขายโดรน MQ-1C Grey Eagle สี่ลําให้กับยูเครนที่สามารถยิงขีปนาวุธ Hellfire เพื่อใช้กับกองกําลังรัสเซียที่เข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารพิเศษในภูมิภาค Donbass
หากเป็นจริงการขายจะต้องได้รับอนุญาตเป็นพิเศษจากทั้งกระทรวงการต่างประเทศและสภาคองเกรสของสหรัฐฯเนื่องจากกฎหมายของสหรัฐฯ จํากัด การขายโดรนติดอาวุธให้กับพันธมิตรสหรัฐทั้งหมดยกเว้นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด หากได้รับการอนุมัติเจ้าหน้าที่ยูเครนจะได้รับหลักสูตรที่จะใช้เวลาสองสามสัปดาห์ (เวลาการฝึกอบรมปกติสําหรับผู้ปฏิบัติงาน MQ-1C คือหลายเดือน) ซึ่งหมายความว่า MQ-1C Grey Eagle ที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้เร็วที่สุดในเดือนกรกฎาคมของปีนี้
MQ-1C Grey Eagle เป็นทายาทของอากาศยานไร้คนขับทางยุทธวิธี MQ-5 Hunter (UAV) ที่พัฒนาโดยกองทัพสหรัฐฯ ในปี 1989 Hunter UAV เป็นระบบอาวุธที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อต่อสู้ในเขตที่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่หนาแน่นเหมือนในยูเครน
ในระหว่างการทดสอบในปี 2002 มันถูกติดตั้งด้วยขีปนาวุธ BAT (จรวดต่อต้านรถถัง) ที่สามารถทําลายยานเกราะหุ้มเกราะของรัสเซียได้ แต่เมื่อถึงเวลาจริงในอิรักปี 2005 มันได้รับการดัดแปลงเพื่อติดตั้งอาวุธนำวิถีด้วยเลเซอร์กับผู้ก่อการร้าย
แน่นอนว่านี่อาจเป็นเจตนาของสหรัฐที่จะขาย Grey Eagles 4 ลำให้กับยูเครน หากมันสามารถอยู่รอดได้ในสถาณการณ์จริงและยังเอาชนะระบบ IADS ของรัสเซียได้ สหรัฐฯจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาได้อีกหลายร้อยล้านดอลลาร์
ยูเครนกําลังสูญเสียอย่างหนักในความขัดแย้งกับรัสเซีย และยังไม่มียุทโธปกรณ์ทางทหารชิ้นไหนของสหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตกที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์นี้ได้ สหรัฐอเมริการู้เรื่องนี้ดีดังนั้นจึงต้องตั้งคําถามถึงประโยชน์ของการจัดหาระบบไฮเทคเช่น MQ-1C ในจํานวนที่ จํากัด
คําตอบที่มีเหตุผลเพียงอย่างเดียวคือสหรัฐฯกําลังพยายามใช้ปฏิบัติการของรัสเซียเป็นห้องปฏิบัติการเสมือนจริง ซึ่งหนูทดลองคือทหารรัสเซียเเละยูเครน เคียฟควรจําไว้ว่านี้ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายขั้นสุดท้ายของความขัดแย้งที่ขับเคลื่อนโดยนาโต้ และรัสเซียไม่ควรลืม (หรือให้อภัย) เมื่อต้องรับมือกับสหรัฐฯในอนาคต
.png)