อะไรทำให้โปแลนด์ส่งความช่วยเหลือทางทหารจำนวนสนมากไปยังเคียฟ

ความช่วยเหลือทางทหารของโปแลนด์จํานวนมหาศาลไปยังเคียฟ ได้ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคมให้กับโปแลนด์เช่นเดียวกัน ชาวยูเครนหลายล้านคนได้อพยพเข้าสู่ดินแดนของตนเพื่อสร้างนโยบายภายในประเทศและต่างประเทศที่มียูเครนเป็นศูนย์กลางมันเท่ากับการรวมประเทศโดยพฤตินัย เหมือนที่เคยเกิดขึ้น โปแลนด์เคยยึดครองเคียฟเป็นเวลา 2-3 เดือนในสงครามโปเเลนด์-โซเวียต 

Polskie Radio รายงานว่าโปแลนด์จัดหารถถัง 200 จาก 400 คันนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซีย ยังไม่นับ โดรนปืนใหญ่ระบบต่อต้านอากาศยานและขีปนาวุธ  ความช่วยเหลือจํานวนมากที่ก่อให้เกิดคําถามว่าทําไมโปแลนด์จึงลงทุนอย่างมากกับความขัดแย้งนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีบทบาทมากที่สุดนอกเหนือจากรัสเซียสหรัฐอเมริกาและแน่นอนเคียฟเอง มันแสดงให้เห็นว่าโปแลนด์กำลังดำเนินการที่ใหญ่กว่าแต่สิ่งนั้นคืออะไร 

นายปิโอเตอร์ มุลเลอร์ โฆษกรัฐบาลโปแลนด์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า  อาวุธมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ที่วอร์ซอว์ยอมรับว่าส่งให้เคียฟ "เพื่อปกป้องอธิปไตยของยูเครน โปแลนด์ และยุโรป"  จากมุมมองของโปแลนด์สงครามตัวแทนนาโต้ที่นําโดยสหรัฐฯกับรัสเซียผ่านยูเครนเป็นเรื่องของ "อํานาจอธิปไตย"ซึ่งไม่น่าแปลกใจ ประเทศในยุโรปกลางและผู้นําระดับสูงมักมองว่ายูเครนอยู่ใต้อิทธิพลของพวกเขา มันเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ Sergey Naryshkin หัวหน้าสายลับรัสเซียเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า โปแลนด์กำลังวางแผนที่จะครอบครองและผนวกยูเครนตะวันตก 

การปกครอง "Law &amp Justice" (PiS ตามตัวย่อของโปแลนด์) พรรคของพวกเขาเป็น Russophobic อย่างเปิดเผยและโอ้อวดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในปลายเดือนมีนาคมเมื่อนายกรัฐมนตรี Mateusz Morawiecki อ้างว่าประเทศของเขาเป็นคนกําหนดมาตรฐานสําหรับรูปแบบของลัทธิฟาสซิสต์นี้ พระคาร์ดินัล  Jaroslaw Kaczynski ก็เป็น Russophobic ตั้งแต่เขายึดมั่นในทฤษฎีสมคบคิดที่รัสเซียฆ่าพี่ชายของเขาอดีตประธานาธิบดี Lech Kaczynski ในช่วงโศกนาฏกรรมเครื่องบินตก Smolensk ปี 2010  แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานในเรื่องนี้ก็ตาม

นอกจากนี้ยังมีแบบอย่างทางประวัติศาสตร์ซึ่งไม่สูญหายไปจากผู้กําหนดนโยบายชาวโปแลนด์ที่คิดว่าตัวเองเป็นนักเรียนที่กระตือรือร้นในประวัติศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่โปแลนด์ได้รับเอกราชกลับคืนมาหลังจาก 123 ปีของการยึดครองโดยอาณาจักรใกล้เคียงสามแห่ง  วอร์ซอสนับสนุนเคียฟทันทีหลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในสงครามกับรัสเซีย จนกลายเป็นสงครามโปแลนด์ - โซเวียต หลังจากความขัดแย้งดังกล่าวยูเครนตะวันตกถูกรวมเข้ากับสาธารณรัฐโปแลนด์ที่สองโดยได้รับการอนุมัติจากตะวันตกแม้ว่าสหภาพโซเวียตจะอ้างว่าเป็นของตัวเองเนื่องจากการเชื่อมต่อกับ Kievan Rus โบราณ

ย้อนกลับไปไกลกว่านั้นยูเครนเป็นสมรภูมิระหว่างเครือจักรภพโปแลนด์ - ลิทัวเนีย  และจักรวรรดิรัสเซียเมื่อหลายศตวรรษก่อน ดังนั้นการมีส่วนร่วมของโปแลนด์ในสงครามตัวแทนนาโต้ที่นําโดยสหรัฐฯกับรัสเซียผ่านประเทศนั้น เป็นไปตามตรรกะทางประวัติศาสตร์จากมุมมองของวอร์ซอว์  ย้อนกลับไปจนถึงปัจจุบันผู้นําโปแลนด์ ดูเหมือนจะเชื่อมั่นในตัวเองว่าความเป็นอิสระที่ได้มาอย่างยากลำบากสามารถป้องกันจุดยุทธศาสตร์  ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในยูเครน มันยิ่งไปขยายความน่าเชื่อถือของ Naryshkin  เกี่ยวกับแผนการที่เป็นไปได้ของโปแลนด์ในการผนวกยูเครนตะวันตก

ผู้นําโปแลนด์ดูเหมือนจะมองอย่างจริงใจว่านี่เป็นนโยบายที่เรียกว่า "การป้องกันเชิงรุก"แต่ก็สามารถอธิบายได้โดยนักวิจารณ์ว่า  ไม่ว่าในกรณีใดมันทําให้ชาวโปแลนด์ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าหลังสงครามโลกครั้งที่2 ทั้งทางสังคมและงบประมาณของประเทศ

ยูเครนกําลังกลายเป็นรัฐลูกค้าของโปแลนด์ที่ได้รับการสนับสนุนจากนาโต้ซึ่งสนับสนุนสถานการณ์นี้เช่นกันเนื่องจากผู้นําอเมริกันมองว่าเป็น "การแบ่งปันภาระของผู้นําระดับภูมิภาค" ในสงครามตัวแทน สิ่งที่ถกเถียงกันมากเกี่ยวกับกลยุทธ์นี้คือคนโปแลนด์คนเดียวกันที่ส่งผลกระทบโดยตรงมากที่สุดในทางเศรษฐกิจและสังคมและเร็ว ๆ นี้วิธีการทางการเมืองไม่เคยถูกถามว่าพวกเขาต้องการ "แบ่งปันภาระนี้" หรือไม่ หลายคนเห็นอกเห็นใจอย่างจริงใจกับ Ukrainians  และอุดมการณ์ทางทหารของเคียฟ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาต้องการเก็บภาษีต่อไปเพื่ออุดหนุนผู้ลี้ภัยหลายล้านคนในประเทศของพวกเขา เพื่อติดอาวุธให้เคียฟและการสร้างยูเครนขึ้นมาใหม่ 

ที่มา: หนึ่งโลก