โดย ฟาน หลินจือ และ หลิน เสี่ยวหย
ผู้ก่อการร้ายกลายเป็นทหารรับจ้างด้วยอาวุะที่กระจัดกระจายอยู่ในสนามรบ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวที่กำลังไกลออกจากสงครามรัสเซียยูเครน ผู้อํานวยการบริหารของ Europol Catherine De Bolle กล่าวกับสื่อเยอรมันเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมว่า พวกเขากังวลว่าอาวุธที่ทางตะวันตกส่งไปยังยูเครนจะตกไปอยู่ในมือผู้ก่อการร้ายและอาชญากร
รายงานก่อนหน้านี้ของหน่วยข่าวกลองรัสเซีย พบว่าสหรัฐฯกำลังพยายามนำผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทส รวมถึงองค์กรหัวรุนแรงมายังยูเครนในฐานะของทหารรับจ้าง
หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ลงนามในแพ็คเกจความช่วยเหลือมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์ ความกังวลนี้กลายเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากขึ้นเนื่องจากการไร้การตรวจสอบของการส่งอาวุธของนาโตและสหรัฐฯเข้าไปยังยูเครน แล้วใครจะนั้งหัวเราะหากผู้ก่อกหารร้ายเหล่านั้นกลับเข้ามาในยุโรป?
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกกับ Global Times ว่าเป็นการยากที่จะควบคุมการอาวุธที่ถูกส่งเข้าไป พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่าไม่เพียงเเต่ยุโรปเท่านั้นที่จะสูญเสียค่าใช้จ่ายแต่ยังรวมถึงประเทศโลกที่ 3 ที่จะประสบกับภัยของความมั่นคงหากอาวุธเหล่านั้นหลุดรอดออกไป
ผู้ที่ชอบเล่นดาบก็จะตายด้วยดาบ ในขณะผู้ที่แสวงหาผลกำไรจากสงครามทางทหารผู้นั้นก็ต้องเตรียมรับไฟที่จะย้อนกลับไปหาตัวเอง ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
Jürgen Stock หัวหน้าตํารวจสากลเตือนว่า เมื่อความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนสิ้นสุดลง ปืนและอาวุธหนักต่างๆจะออกมาสู่ตลาดอย่างควบคุมไม่ได้ ตามรายงานของ Guardian
"เมื่อเสียงปืนที่ยูเครนเงียบ พวกมันจะมา เรารู้เรื่องนี้จากกรณีอื่นๆ อาญากรยังอยู่ในยณะที่เรามุ้งไปทางตะวันออก" สต็อกกล่าวโดยเน้นว่าอาวุธผิดกฎหมายที่ไหลเข้าสู่ตลาดอาชญากรรมจะสร้างความเสียหายให้อย่างมหาศาล
เมื่อหลายวันก่อน De Bolle ได้แสดงความกังวลเช่นเดียวกันในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Die Welt am Sonntag ของเยอรมัน เธอกล่าวว่าอาวุธที่ส่งจากสหภาพยุโรปไปยังยูเครนอาจตกอยู่ในมือของอาชญากรได้อย่างง่ายดาย และมันจะย้อนกับมาเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหภาพยุโรป
จากข้อมูลของ SVR ในเดือนเมษายนกลุ่มติดอาวุธ ISIS ประมาณ 60 คนอายุระหว่าง 20 ถึง 25 ปี ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจําที่ควบคุมโดยชาวเคิร์ดในซีเรียด้วยการแทรกแซงของหน่วยข่าวกรองอเมริกัน
พวกเขาถูก "ย้ายไปที่ฐานทัพสหรัฐฯ Al-Tanf ซึ่งตั้งอยู่ในซีเรียใกล้ชายแดนจอร์แดนและอิรัก เพื่อฝึกการต่อสู้โดยมีจุดประสงค์ที่ตะส่งพวกเขาไปยังยูเครน"ตามแถลงการณ์จาก SVR
นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า "ความฝัน" ของฟาสซิสต์ที่คลั่งไคล้ในการฆ่านั้นเหมือนกันทั้งสองด้านของมหาสมุทรแอตแลนติก
พกวขวาจัดในสหรัฐฯกำลังคุกคามชีวิตของคนธรรมดา มีเหตยิงกันจำนวนมากในสหรัฐเมื่อเร็วนี้ๆ มันทำให้อาวุธที่ไหลเข้าสู่ยูเครนดูน่ากลัวยิ่งขึ้นหากมันได้กลับบ้านที่สหรัฐฯ
ถ้าอาวุธที่ไม่มีการควบคุมจํานวนมากไหลออกจากยูเครนไปอยู่กับพวกหัวรุนแรงทั่วโลก? คำถามนี้ดูเหมือนว่าสหรัฐฯจะไม่ให้ความสนใจ ถ้าอาวุธที่ไม่มีการควบคุมจํานวนมาก
ก่อนหน้านี้วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายนี้อย่างรวดเร็ว
ราคาที่คุณต้องจ่าย
สหรัฐฯ และประเทศนาโตอื่นๆ ได้จัดหาอาวุธอะไรบ้างนับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนปะทุขึ้น อัลจาซีรารายงานเรื่องนี้เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ มีส่วนสําคัญ ซึ่งรวมถึงระบบต่อต้านอากาศยาน Stinger 1,400 ระบบ ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Javelin 5,000 ลูก ปืนไรเฟิลหลายพันกระบอกพร้อมกระสุน และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกหลายรายการ
อย่างไรก็ตาม อาวุธตะวันตกบางส่วนที่ส่งมาให้กับยูเครนกำลังถูกขายอยู่ในตลาดมืด ASB Military News รายงานเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนว่าอาวุธบางส่วนที่สหรัฐฯ และนาโตบริจาคกําลังถูกขายให้กับผู้ซื้อในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ตามงบประมาณปี 2021 ของเพนตากอน ขีปนาวุธ Javelin แต่ละลูกมีราคา 178,000 ดอลลาร์ ขีปนาวุธเหล่านี้ถูกนําไปขายบนเน็ตมืดในราคาเพียง 30,000 ดอลลาร์ ASB Military News
"หลายคนกําลังนําอาวุธเหล่านี้ไปขายให้กับองค์กรก่อการร้ายในตลาดมืด ด้วยเหตุนี้ อาวุธเหล่านี้จะถูกนําไปใช้ในอนาคตเพื่อสังหารผู้คนในยุโรปและสถานที่อื่นๆ" จอห์น มาร์ค ดูแกน นักข่าวสหรัฐฯ ยืนยันข่าวดังกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Global Times โดยกล่าวว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตรวจสอบ เส้นทางของอาวุธเหล่านี้ Dougan เป็นอดีตนาวิกโยธินสหรัฐที่เดินทางไปยูเครนในฐานะนักข่าวหลังจากความขัดแย้งเริ่มขึ้น
"การจัดการอาวุธในสนามรบรัสเซีย-ยูเครนอยู่ในสภาวะที่วุ่นวายมาก และไม่สามารถติดตามได้เลยเราไม่รุ้เลยว่ามันถูกส่งไปที่ไหนบ้าง" หลี่ เหว่ย ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงแห่งชาติที่สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยของจีนกล่าวกับ Global Times
หลี่ ชี้ให้เห็นว่ากองทัพรัสเซียอยู่ในสถานะปกติในการจัดหาอาวุธ ตรงข้ามกับกองทัพยูครน ที่มีความซับซ้อนในสายบังคับบัญชา มี่ทั้งกองทัพปกติ กองพันAZOV และองกรค์อื่นๆ" ในตอนต้นของความขัดแย้ง อาวุธบางอย่างถูกแจกจ่ายให้กับพลเรือนด้วยซ้ํา"
หลี่ตั้งข้อสังเกตว่าในกระบวนการส่งมอบความช่วยเหลือจากตะวันตกให้กับรัฐบาลยูเครน มันเป็นการส่งอาวุธเข้าไปสู่ปลายทางของสงครามจึงเป็นการยากที่จะพิสูจน์ถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายของอาวุธ
อาวุธเหล่านี้จะไปที่ไหนในอนาคต?
เมื่อเร็วๆ นี้ นายอากิลา อัล-ตายา ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของอิรักได้บอกกับสํานักข่าวสปุตนิกของรัสเซียว่าอาวุธของสหรัฐฯ ที่จัดหาให้กับยูเครนในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะถูกนําเข้ามาให้กับกลุ่มหัวรุนแรงทั้งในและนอกยูเครน รวมถึงกลุ่มรัฐอิสลาม เพื่อสร้างองกรค์ใหม่ภายใต้ชื่อใหม่
"หากอาวุธเหล่านี้อยู่ในมือขององค์กรก่อการร้ายและแก๊งอาชญากร สิ่งนี้อาจก่อให้เกิดการแบ่งแยกดินแดนในยุโรปและจุดประกายความขัดแย้งภายใน ยุโรปจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทําทางทหารของสหรัฐฯ และความผิดพลาดของตนเอง" เหอ จือเกา (He Zhigao) นักวิจัยจากสถาบันยุโรปศึกษาที่สถาบันสังคมศาสตร์จีน (CASS) กล่าวกับ Global Times
เขาตั้งข้อสังเกตว่าการไหลเข้ามาของผู้ลี้ภัยหลังจากวิกฤตยูเครนได้เพิ่มความเป็นไปได้ของการโจมตีโดยผู้ก่อการร้าย "การทับซ้อนกันของวิกฤตผู้ลี้ภัยกับอาวุธและการคุกคามของการก่อหารร้ายที่่ยุโรปไม่ได้คาดการณ์ไว้"
"รัสเซียพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับยุโรปหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต แต่ในมุมมองของสหรัฐฯ การปรับปรุงดังกล่าวอาจเป็นภัยคุกคามต่ออํานาจโลกของตน" หลี่กล่าว โดยตั้งข้อสังเกตว่า "สหรัฐฯ ต้องการปลุก 'Russophobia' อีกครั้งในยุโรป และความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนทําให้แผนของสหรัฐฯประสบสำเร็จ"
"สําหรับยุโรปจําเป็นต้องกําหนดและรักษาผลประโยชน์หลักให้ชัดเจนยิ่งขึ้น หากพวกเขาติดตามสหรัฐฯ โดยไม่ระวัง ความเป็นอิสระด้านความมั่นคงของพวกเขา อาจจะถูกครอบงำโดยสหรัฐฯ"หลี่กล่าว
เขาเชื่อว่ายุโรปควรเสริมสร้างเอกราชทางยุทธศาสตร์และถ่ายโอนแนวคิดด้านความปลอดภัย ยุโรปควรสนับสนุนบทบาทของสหประชาชาติในด้านการควบคุมอาวุธแบบดั้งเดิมกับมหาอํานาจที่สําคัญรวมถึงจีนด้วย
